5 วิธีกินหวานเฮลท์ตี้ คุมปริมาณน้ำตาลต่อวัน

by GOOD SUGAAAR

เคล็ดลับสุขภาพดี ทำได้ง่าย ๆ กินหวานแต่พอดี ทานน้ำตาลอย่างไรให้สุขภาพดี

‘รสหวาน’ มีความสัมพันธ์กับ ‘ความสุข’ ของเราอย่างปฏิเสธไม่ได้ เรียกได้ว่าน้ำตาล คือสารแห่งความสุข เมื่อร่างกายได้รับความหวานจะรู้สึกสดชื่น อารมณ์เบิกบาน ลดความเครียดได้อย่างทันตาเห็น แต่การรับน้ำตาลปริมาณมากๆ ต่อวันจนเกินความจำเป็นของร่างกาย ก็จะทำให้เรามีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมาอีกมากมาย ทั้งปัญหาเกี่ยวกับเส้นเลือด หลอดเลือดหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคไต และโรคเบาหวาน เป็นต้น

สายหวานทั้งหลายที่ชื่นชอบความหวานเป็นชีวิตจิตใจ แต่ก็ไม่อยากให้น้ำตาลมาทำลายสุขภาพ อยากมีสุขภาพที่ดี จะได้กินอาหารอร่อย ๆ ไปนาน ๆ ควรหันมาปรับวิธีการกินหวานแบบเฮลท์ตี้ ด้วยการทานหวานอย่างสุขภาพดี ที่เราเอามาฝากกันวันนี้

5 วิธีกินหวานเฮลท์ตี้ ทานน้ำตาลอย่างไรให้สุขภาพดี

  1. เลือกรับประทานอาหารดัชนีน้ำตาลต่ำ (Low Glycemic Index)
    อาหารดัชนีน้ำตาลต่ำ เมื่อเรารับประทานไปแล้ว อาหารจะถูกดูดซึม และเปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้ช้ากว่าปกติ ช่วยหลีกเลี่ยงผลกระทบจากกลไกทำงานของร่างกายที่จะผลิตอินซูลินออกมาอย่างรวดเร็ว เพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งค่า GI ของอาหารดัชนีน้ำตาลต่ำ ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับปริมาณแคลอรี่อย่างที่หลายๆ คนเข้าใจ เพราะอาหารแต่ละประเภท แม้จะมีจำนวนแคลอรี่ที่เท่ากัน แต่ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่างอาจทำให้มีค่าดัชนีน้ำตาลแตกต่างกันได้ เช่น การขัดสีของอาหาร, ปริมาณกากใยในอาหาร และชนิดของคาร์โบไฮเดรต เป็นต้น

    เมื่อคุณเลือกรับประทานอาหารดัชนีน้ำตาลต่ำ จะทำให้ร่างกายสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเบาหวาน และลดปริมาณน้ำตาลที่กินต่อวัน เพิ่มคุณภาพของอาหารทุกมื้อ ให้เป็นการกินเพื่อสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น

  2. ทุกครั้งที่สั่งเครื่องดื่ม ควรสั่งแบบหวานน้อย
    บางคนควบคุมน้ำตาลในอาหารแทบตาย แต่มาตกม้าตาย เพราะปริมาณน้ำตาลในเครื่องดื่ม เพราะคิดว่าเครื่องดื่มไม่ใช่มื้ออาหารใหญ่ ดื่มแค่แก้วเดียวเองคงไม่เป็นอะไร แท้จริงแล้วเครื่องดื่มมากมายมีอัตราส่วนของน้ำตาลในปริมาณที่สูงมาก และถึงแม้จะเป็นน้ำผลไม้ ก็ไม่ได้หมายความว่าเครื่องดื่มน้ำผลไม้นั้นจะดีต่อสุขภาพร่างกาย เพราะน้ำผลไม้ส่วนใหญ่จะอัดแน่นไว้ด้วยน้ำตาลทราย หรือน้ำตาลซูโครสในปริมาณสูง

    เครื่องดื่มทุกชนิดตามร้านค้า ควรหันมาเลือกสั่งแบบลดระดับความหวาน ให้มีระดับน้ำตาลอยู่ที่ 0% สูงสุดไม่เกิน 50% แทนการสั่งหวานปกติ หรือหวาน 100% การฝึกสั่งเครื่องดื่มหวานน้อยให้ติดจนเป็นนิสัย จะช่วยฝึกลิ้นรับรสของคุณให้ค่อย ๆ เลิกติดรสหวานลงเรื่อย ๆ ใช้เวลาฝึกไม่นานความหวานเพียงนิดเดียวก็จะช่วยเติมเต็มความสุขของคุณได้แล้ว โดยไม่กลับมาติดรสหวานจัดอีกต่อไป

  3. อ่านฉลากก่อนตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์อาหารต่าง ๆ
    เชื่อหรือไม่ว่าการสละเวลาเพียงน้อยนิดในการดูข้อมูลโภชนาการข้างผลิตภัณฑ์ จะช่วยให้คุณควบคุมปริมาณน้ำตาลในชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น อาหารบางอย่างที่คุณคิดว่าไม่น่าจะมีน้ำตาลมาก แต่เมื่อพิจารณาจากข้อมูลโภชนาการข้างผลิตภัณฑ์แล้ว คุณอาจจะต้องตกใจกับตัวเลขปริมาณน้ำตาลที่สูงลิบลิ่ว

    การสละเวลาอ่านข้อมูลบนฉลากก่อนตัดสินใจซื้อ จะช่วยให้คุณสามารถหลีกเลี่ยงอาหาร หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาลที่สูงเกินไป และหันไปเลือกผลิตภัณฑ์ทดแทนที่มีปริมาณน้ำตาลน้อยกว่า โดยที่คุณก็ยังได้บริโภคอาหารประเภทเดิมตามความต้องการ แต่ในปริมาณน้ำตาลที่ลดน้อยลงกว่าเดิม

  4. ผลไม้ไม่ใช่ผัก กินแบบอันลิมิเต็ดไม่ได้นะ
    ตอนเด็ก ๆ คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนมักจะคอยบอกเราอยู่เสมอว่า ผัก และผลไม้นั้นดีต่อร่างกาย ยิ่งกินเยอะ ๆ ร่างกายก็ยิ่งได้ประโยชน์ มีไฟเบอร์สูง ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย แต่ข้อมูลนี้อาจใช้ไม่ได้จริงกับผลไม้ทุกประเภท เพราะผลไม้ตามฤดูกาลในบ้านเรานั้นมีปริมาณน้ำตาลสูงมากกว่าที่คุณคิด

    อย่างเช่น มะม่วงสุก ของโปรดของใครหลาย ๆ คน กินทีไรรู้สึกสดชื่น ยิ่งกินกับข้าวเหนียวกะทิก็ยิ่งฟิน แต่รู้หรือไม่ว่า มะม่วงสุกเพียง 1 ลูก มีปริมาณน้ำตาลสูงถึง 45 กรัม หรือเทียบเท่ากับน้ำตาลทรายเพียว ๆ เกือบ 4 ช้อนโต๊ะเลยทีเดียว!

    รู้แบบนี้แล้วหันมาเลือกกินผลไม้หวานน้อยกันดีกว่า เช่น แก้วมังกร, ฝรั่ง, ชมพู หรือแอปเปิ้ลเขียว เป็นต้น

  5. เลือกบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารที่มีตราสัญลักษณ์ทางเลือกเพื่อสุขภาพ
    ปัจจุบันคนรักสุขภาพมีทางเลือกของการบริโภคอาหารหลากหลายมากยิ่งขึ้น ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่วางจำหน่ายตามซุปเปอร์มาเก็ต หรือแหล่งจำหน่ายอาหารในท้องตลาด จะมีสัญลักษณ์โภชนาการทางเลือกเพื่อสุขภาพ (Healthier Choice) กำกับอยู่บนบรรจุภัณฑ์ ซึ่งสัญลักษณ์ฉลากจะดังกล่าว ติดเอาไว้เพื่อแสดงว่าผลิตภัณฑ์อาหารนั้นๆ ได้ผ่านเกณฑ์การพิจารณามาแล้วว่ามีปริมาณน้ำตาล, ไขมัน และโซเดียม ที่เหมาะสมกับการกินเพื่อสุขภาพ ช่วยลดปัจจัยเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่าง ๆ
 

จะดีแค่ไหน หากคุณสามารถควบคุมความหวานในแต่ละวันได้ ตั้งแต่ชนิดของน้ำตาลทรายแดงที่นำมาใช้ประกอบอาหาร และเมนูขนมหวาน GOOD SUGAAAR ชวนคุณมาเปิดโลก สัมผัสประสบการณ์การกินเพื่อสุขภาพอย่างมีความสุข ด้วยผลิตภัณฑ์น้ำตาลที่ใส่ใจในสุขภาพของคุณ น้ำตาลทรายแดง จาก GOOD SUGAAAR ผลิตด้วยกรรมวิธีดั้งเดิมโบราณ คงคุณค่าแร่ธาตุต่างๆ เอาไว้อย่างครบถ้วน และยังเป็นผลิตภัณฑ์น้ำตาล Low GI น้ำตาลที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ สารให้ความหวานไม่กระตุ้นอินซูลิน น้ำตาลที่คนเป็นเบาหวานกินได้อย่างสบายใจ ช่วยให้คนรักสุขภาพสามารถควบคุมความหวานได้ง่ายขึ้นในทุกๆ วัน

GOOD SUGAAAR ผลิตภัณฑ์น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลอ้อยธรรมชาติ 100% ที่มาพร้อมสัญลักษณ์อาหารทางเลือกเพื่อสุขภาพ ‘น้ำตาล Low GI’ เจ้าแรกในประเทศไทย ที่ได้รับการรับรองจากสถาบันวิจัยระดับโลก Glycemic Index Research Service หรือ SUGiRS จากประเทศออสเตรเลีย การันตีให้เป็นผลิตภัณฑ์น้ำตาล Low GI จริง! ผลิตภัณฑ์น้ำตาลมัสคาวาโด้ (Muscovado Sugar) และ น้ำตาลดีเมอเรร่าจาก GOOD SUGAAAR สนับสนุนให้คนรักสุขภาพกลับมามีความสุขกับการกินทุกเมนูโปรดได้อีกครั้งอย่างใจต้องการ

สำหรับผู้ที่กำลังตามหาส่วนผสมสำคัญ ชนิดของน้ำตาลที่ลงตัวกับทั้งเมนูอาหารคาวหวาน น้ำตาลแบบไหนดีต่อสุขภาพ น้ำตาลสำหรับคนเป็นเบาหวาน ยี่ห้อไหนดี GOOD SUGAAAR คือ คำตอบที่ลงตัว สำหรับเมนูอาหารเพื่อความสุขทุกวันของคุณ เปลี่ยนมาใช้น้ำตาล Low GI สร้างสรรค์เมนูอาหารดัชนีน้ำตาลต่ำของคุณให้สมบูรณ์แบบ สุขภาพดีได้แบบไม่กลัวหวาน

สนใจซื้อผลิตภัณฑ์น้ำตาล Low GI น้ำตาล Muscovado Sugar จาก GOOD SUGAAAR   
🛒 Lotus’s ทุกสาขา
🛒 Tops ทุกสาขา 
🛒 Villa Market ทุกสาขา
🛒 After You Marketplace ทุกสาขา
🛒 Farm Foods Market https://www.farmfoodsmart.com/home/viewproduct?id=2398
🛒 https://shopee.co.th/goodsugaaar
🛒 https://www.lazada.co.th/shop/goodsugaaar
หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 02-225-5845-6, 094-689-8648, 063-498-0848