สูตรและเคล็ดลับการทำขนมหวานสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

ขนมหวาน ความสุขเล็ก ๆ ในชีวิตของผู้คนมากมายที่ช่วยเติมเต็มความสดชื่นได้ในทุก ๆ วัน แต่สำหรับผู้ป่วยเบาหวานแล้ว ขนมหวานอาจเป็นสิ่งที่ต้องใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ จนผู้ป่วยเบาหวานหลายคนหันมาจำกัดความต้องการของตัวเอง รู้ตัวอีกที ชีวิตก็ขาดสีสัน หรือบางครั้งก็ต้องแอบกินอย่างรู้สึกผิด

ความจริงแล้ว ขนมหวานกับผู้ป่วยเบาหวานอาจไม่ใช่สิ่งที่เจอกันได้ยากอย่างที่คิด แค่เลือกใช้วัตถุดิบอย่างเข้าใจ เลือกใช้น้ำตาลเพื่อสุขภาพที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ หรือน้ำตาล Low GI เพียงเท่านี้คุณก็สามารถทำขนมหวานได้อย่างปลอดภัยต่อสุขภาพ แม้จะเป็นผู้ป่วยเบาหวานก็มีความสุขกับการกินได้ไม่แพ้กัน!

ทำไมผู้ป่วยเบาหวานจึงควรใส่ใจการเลือกน้ำตาลทำขนม

เบาหวาน เกิดจากภาวะที่ร่างกายมีน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ เนื่องจากตับอ่อนผลิตอินซูลินได้ไม่เพียงพอ หรือร่างกายเกิดการดื้อต่ออินซูลิน การรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงและย่อยอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะขนมหวานที่ใช้น้ำตาลทรายขัดขาวทั่วไป จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว นำไปสู่การเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น เบาหวานขึ้นตา ไตเสื่อม หรือ โรคหัวใจ เป็นต้น

แม้ความหวานเป็นสิ่งที่ต้องระวัง แต่ไม่ได้แปลว่าผู้ป่วยเบาหวานจะต้องเลิกทานของหวานไปตลอดชีวิต สิ่งสำคัญคือการเลือกใช้น้ำตาลเพื่อสุขภาพ และควบคุมปริมาณให้เหมาะสม ผลิตภัณฑ์น้ำตาล Low GI หรือน้ำตาลที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ ถือเป็นทางออกสำคัญที่จะช่วยให้ร่างกายของผู้ป่วยเบาหวานดูดซึมน้ำตาลได้ช้าลง ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และที่สำคัญยังคงให้รสหวานละมุน ทำให้เมนูขนมหวานน่ารับประทานไม่เปลี่ยนแปลง

เคล็ดลับสร้างสรรค์เมนูขนมหวานที่ปลอดภัยสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

หัวใจสำคัญของการทำขนมหวานสำหรับผู้ป่วยเบาหวานคือ การเลือกใช้ส่วนผสมที่มีค่า Low GI ให้ได้มากที่สุด มองหาทางเลือกใหม่ ๆ ของการคัดสรรวัตถุดิบที่ตอบโจทย์สุขภาพของผู้ป่วยเบาหวานโดยเฉพาะ เช่น

• เปลี่ยนผลิตภัณฑ์น้ำตาล: แทนที่จะใช้น้ำตาลทำขนมแบบเดิม ๆ ให้เปลี่ยนมาใช้น้ำตาลอ้อยธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์น้ำตาลออร์แกนิกชนิด Low GI ทางเลือกเพื่อสุขภาพที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานอย่างแท้จริง มอบความหวานใกล้เคียงกับน้ำตาลทรายขาวทั่วไป แต่มีความพิเศษตรงที่ไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว อีกทั้งควรหลีกเลี่ยงการใช้สารให้ความหวานสังเคราะห์ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำในผู้ป่วยเบาหวานได้
• เปลี่ยนวัตถุดิบแป้ง: จากแป้งสาลีขัดขาว ให้เปลี่ยนมาใช้แป้งโฮลวีท แป้งข้าวโอ๊ต หรือ แป้งอัลมอนด์ ซึ่งเป็นประเภทของแป้งที่มีใยอาหารสูงกว่า และมีค่า GI ต่ำกว่า
• เพิ่มใยอาหาร: เลือกใช้วัตถุดิบที่เป็นแหล่งไฟเบอร์ เช่น เมล็ดเจีย เมล็ดแฟลกซ์ หรือ รำข้าวโอ๊ต เป็นส่วนผสมหลักในเมนูของหวาน ซึ่งจะช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาล ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่พุ่งสูงเร็วเกินไป
• เน้นไขมันดี: เลือกใช้น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก หรือ เนยแท้ แทนการใช้มาการีน ไขมันดีจะช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้นและดีต่อสุขภาพหัวใจ
• เพิ่มรสหวานจากธรรมชาติ: เลือกใช้ผลไม้สด เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ กล้วย หรือ แอปเปิ้ล ในการเพิ่มความหวานและเพิ่มกลิ่นหอมจากธรรมชาติที่สดชื่น เน้นเลือกผลไม้ที่มีค่า GI ต่ำ

แจกสูตรขนมหวานสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

1. พุดดิ้งเมล็ดเจีย (Chia Pudding)

เมล็ดเจียอุดมไปด้วยใยอาหาร ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลในร่างกาย เพิ่มความอร่อยด้วยพุดดิ้งกลิ่นวานิลลา เนื้อนุ่มลื่นละมุนลิ้น เหมาะเป็นของหวานเบา ๆ หลังมื้อเช้า หรือของว่างแสนสุขในยามบ่าย

ส่วนผสม (สำหรับ 1-2 ที่)

• เมล็ดเจีย 3 ช้อนโต๊ะ
• นมอัลมอนด์สูตร Unsweetened 200 มิลลิลิตร
• น้ำตาลอ้อยธรรมชาติ GOOD SUGAAAR 1 ช้อนชา
• กลิ่นวานิลลา ¼ ช้อนชา
• ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่สด ½ ถ้วย เช่น สตรอว์เบอร์รี, บลูเบอร์รี, ราสป์เบอร์รี

วิธีทำ

1. ใช้ขวดแก้ว หรือถ้วยที่มีฝาปิด เพื่อให้สะดวกในการแช่เย็น เทนมอัลมอนด์ลงในขวดแก้ว เติมเมล็ดเจียแล้วคนให้เข้ากัน แนะนำให้ใช้ส้อมหรือที่คนกาแฟ เพื่อป้องกันการจับตัวเป็นก้อนของเมล็ดเจีย
2. ใส่น้ำตาลเพื่อสุขภาพและกลิ่นวานิลลาเพิ่มลงไป คนทุกส่วนผสมให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ชิมรส หากต้องการหวานเพิ่ม ให้เติมน้ำตาลอ้อยธรรมชาติเพียงทีละเล็กน้อย
3. ปิดฝา แช่เย็นอย่างน้อย 2 ชั่วโมง หรือทิ้งไว้ข้ามคืน ระหว่างแช่เย็น แนะนำให้เปิดออกมาคนอีกครั้งหลังผ่านไป 15 นาที เพื่อให้เนื้อพุดดิ้งเนียนยิ่งขึ้น
4. จัดเสิร์ฟ ตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยผลไม้เบอร์รี่สด หากต้องการเพิ่มความมัน สามารถใส่โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ช้อนโต๊ะเป็นท็อปปิ้งได้

2. มัฟฟินกล้วยหอมโฮลวีต (Banana Muffins)

กล้วยหอมเป็นแหล่งโพแทสเซียมและไฟเบอร์ที่ดี เมื่อนำมาทำเป็นเมนูขนมอบมัฟฟินจะยิ่งหอมกลิ่นกล้วย ทำง่าย และให้ไฟเบอร์สูง ช่วยให้อิ่มนาน

ส่วนผสม (สำหรับ 6 ชิ้น)

• กล้วยหอมสุกบดละเอียด 2 ลูก
• แป้งโฮลวีต 1 ถ้วยตวง
• ไข่ไก่ 1 ฟอง
• น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันคาโนลา 2 ช้อนโต๊ะ
• เบกกิ้งโซดา ½ ช้อนชา
• เบกกิ้งพาวเดอร์ ½ ช้อนชา
• อบเชยป่น ½ ช้อนชา
• น้ำตาลอ้อยธรรมชาติ GOOD SUGAAAR 2 ช้อนโต๊ะ
• นมอัลมอนด์ 2-3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. ร่อนแป้งโฮลวีต เบกกิ้งโซดา และเบกกิ้งพาวเดอร์เข้าด้วยกัน จากนั้นเติมผงอบเชยเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม แล้วคนให้เข้ากัน
2. ในชามผสมอีกใบ บดกล้วยให้ละเอียด ใส่ไข่ไก่ น้ำมันมะพร้าว น้ำตาลอ้อยธรรมชาติ แล้วคนทุกส่วนผสมให้เข้ากันจนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
3. ค่อย ๆ เทแป้งโฮลวีตที่เตรียมไว้ลงไปในชามกล้วย ใช้พายซิลิโคนคนเบา ๆ ให้เข้ากัน หากเนื้อแป้งแห้งเกินไป ให้ค่อย ๆ เติมนมอัลมอนด์ทีละ 1 ช้อนโต๊ะ จนกว่าจะได้เนื้อแป้งข้นที่ตักขึ้นแล้วเนื้อแป้งไหลลงช้า ๆ
4. ตักขนมใส่พิมพ์มัฟฟิน นำเข้าเตาอบนาน 18-20 นาที ตั้งอุณหภูมิที่ 180°C ไฟบน-ล่าง หรือคอยดูจนเนื้อด้านบนสุกเป็นสีน้ำตาลทอง ทดสอบด้วยไม้จิ้มเค้ก ถ้าไม่มีเศษแป้งติดออกมาแสดงว่ามัฟฟินสุกแล้ว
5. นำออกมาวางบนตะแกรงให้เย็นก่อนจัดเสิร์ฟ เพื่อให้เนื้อเค้กเซ็ตตัวดี

การเลือกน้ำตาลเพื่อสุขภาพ ไม่เพียงช่วยให้ผู้ป่วยเบาหวานได้กลับมามีความสุขกับการกินอีกครั้ง แต่ยังดีต่อสุขภาพของคนทั่วไปที่ต้องการควบคุมน้ำหนักและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเรื้อรัง ตามงานวิจัยจาก Harvard T.H. Chan School of Public Health ชี้ชัดว่าอาหารดัชนีน้ำตาลต่ำช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและช่วยควบคุมความอยากอาหารได้ดีกว่า

เติมเต็มความสุขกับน้ำตาลอ้อยธรรมชาติ GOOD SUGAAAR ตัวช่วยเปลี่ยนขนมของคุณให้พิเศษกว่าเดิม

ใครที่กำลังมองหาน้ำตาลที่คนเป็นเบาหวานกินได้ น้ำตาลเพื่อสุขภาพ น้ำตาลทำขนม ที่สามารถใช้แทนน้ำตาลทรายขาวได้อย่างไร้กังวล GOOD SUGAAAR น้ำตาลอ้อยธรรมชาติ 100% การันตีความเป็นน้ำตาล Low GI ด้วยการรับรองจากสถาบันระดับโลก ผลิตภัณฑ์น้ำตาลออร์แกนิคหนึ่งเดียวในไทยที่ดีต่อสุขภาพของคุณแบบยืนยันได้จริง และให้ความหอมหวานที่เป็นเอกลักษณ์จากวัตถุดิบอ้อยออร์แกนิคแท้ ๆ

GOOD SUGAAAR น้ำตาลเพื่อสุขภาพที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุและสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ให้ความหวานอย่างอร่อยลึกซึ้ง เหมาะสำหรับใช้แทนน้ำตาลทำขนมได้ทุกเมนู ไม่ว่าจะเป็นเบเกอรี่ เครื่องดื่ม หรือแม้แต่อาหารคาวหลาย ๆ เมนู ให้คุณและคนที่คุณรักได้เพลิดเพลินกับเมนูโปรดอย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องระดับน้ำตาลในเลือดอีกต่อไป

เพราะความสุขจากการกินของหวานไม่ใช่เรื่องต้องห้าม แต่คือการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวคุณเอง GOOD SUGAAAR ความหวานที่ดีต่อใจในทุกเมนู